เมนู

อรรถกถาปาราชิกสิกขาบทที่ 2


วินิจฉัยในปาราชิกสิกขาบทที่ 2 พึงทราบดังนี้ :-
แก้อรรถปาฐะบางตอนในทุติยปาราชิก
บทว่า กจฺจิโน สา ตัดบทเป็น กจฺจิ นุ สา แปลว่า ชะรอย
นาง (จะมีครรภ์ทั้งเป็นภิกษุณีกระมัง ?)
บทว่า อวณฺโณ แปลว่า มิใช่คุณ.
บทว่า อกิตฺติ แปลว่า การตำหนิ.
บทว่า อยโส ได้แก่ ความเสียบริวาร, อีกอย่างหนึ่ง ได้แก่ การ
ติเตียนลับหลัง.
คำว่า สา วา อาโรเจติ ได้แก่ นางภิกษุณีผู้ซึ่งต้องปาราชิกแล้ว
ไม่บอกด้วยตนเองก็ดี.
ข้อว่า อฏฺฐนฺนํ ปาราชิกานํ อญฺญตรํ ได้แก่ ปาราชิก 4 ที่
สาธารณะกับภิกษุทั้งหลาย และเฉพาะปาราชิก 4 ที่ไม่ทั่วไปอย่างใดอย่างหนึ่ง.
และปาราชิกนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติในภายหลัง เพราะฉะนั้น จึง
ตรัสไว้ในวิภังค์ว่า อฏฺฐนฺนํ . แต่บัณฑิตพึงทราบว่า พระสังคีติกาจารย์
ทั้งหลายจัดตั้งปาราชิกนี้ไว้ในโอกาสนี้ ก็เพราะเป็นคู่กับสิกขาบทก่อน.
สองบทว่า ธุรํ นิกฺขิตฺตมตฺเต คือ พอเมื่อเธอทอดธุระเสีย ก็
กถาพิสดารในสิกขาบทนี้ บัณฑิตพึงทราบโดยนัยดังได้กล่าวแล้วในทุฏฐุลล-

สิกขาบท ในสัปปาณวรรคนั้นแล. แต่มีความแปลกกันเพียงเท่านี้ว่า จริงอยู่
ในทุฏฐุลลสิกขาบทนั้น เป็นปาจิตตีย์, ในบทนี้เป็นปาราชิก. คำที่เหลือเป็น
เช่นเดียวกันทั้งนั้น.
แม้คำว่า วชฺชปฏิจฺฉาทิกา นี้ ก็เป็นเพียงชื่อแห่งปาราชิกนี้เท่านั้น.
เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงไม่ทรงวิจารณ์ไว้ในบทภาชนะ. คำที่
เหลือในสิกขาบทนี้ ตื้นทั้งนั้น.
สิกขาบทนี้ มีการทอดธุระเป็นสมุฏฐาน เกิดขึ้นทางกายวาจากับจิต
เป็นอกิริยา สัญญาวิโมกข์ สจิตตกะ โลกวัชชะ กายกรรม วจีกรรม อกุศลจิต
ทุกขเวทนา ดังนี้แล.
อรรถกถาปาราชิกสิกขาบทที่ 2 จบ

ปาราชิกสิกขาบทที่ 3


เรื่องภิกษุณีถุลลนันทา


[18] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ประทับอยู่ ณ พระ-
เชตวัน อารามของอนาถบิณฑิกคหบดี เขตพระนครสาวัตถี ครั้งนั้น ภิกษุณี
ถุลลนันทาพระพฤติตามพระอริฎฐะผู้เผ่าพรานแร้งที่ถูกสงฆ์พร้อมเพรียงกันยก
เสียแล้ว บรรดาภิกษุณีที่เป็นผู้มักน้อย . . . ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า
ไฉนแม่เจ้าถุลลนันทาจึงได้พระพฤติตามพระอริฏฐะผู้เผ่าพรานแร้ง ซึ่งถูกสงฆ์
ผู้พร้อมเพรียงกันยกเสียแล้วเล่า... แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.

ทรงสอบถาม


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ข่าวว่า ภิกษุณีถุลลนันนทาประพฤติตามอริฏฐภิกษุผู้เผ่าพรานแร้ง ซึ่งถูก
สงฆ์ผู้พร้อมเพรียงกันยกเสียแล้ว จริงหรือ.
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.

ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท


พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าทรงติเตียนว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ไฉน
ภิกษุณีถุลลนันทา จึงได้ประพฤติตามอริฏฐภิกษุผู้เผ่าพรานแร้ง ซึ่งถูกสงฆ์
ผู้พร้อมเพรียงกันยกเสียแล้วเล่า การกระทำของเธอนั่น ไม่เป็นไปเพื่อความ
เลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลภิกษุณีทั้งหลาย จงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดง
อย่างนี้ว่า ดังนี้ :-